อาหารในประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก ซึ่งสิ่งหนึ่งท Übersetzung - อาหารในประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก ซึ่งสิ่งหนึ่งท Deutsch wie soll ich sagen

อาหารในประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นอาหา

อาหารในประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทำให้อาหารไทยเป็นเอกลักษณ์ก็คือ ความเผ็ด โดยคนไทยกินเผ็ดมาเป็นเวลานานแล้ว และจุดนี้เองที่ทำให้ใคร ๆ ต่างก็คิดว่า พริกถือกำเนิดขึ้นในไทย ซึ่งนับว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดมหันต์ทีเดียว ถ้างั้นพริกกำเนิดขึ้นที่ไหน วันนี้กระปุกดอทคอมจะมาชี้แจงแถลงไขให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกันจ้า

พริกถือเป็นเครื่องเทศที่เก่าแก่ชนิดหนึ่งของโลก โดยถิ่นกำเนิดของพริกนั้นอยู่ในทวีปอเมริกากลางและใต้ และจากที่นั่นนักผจญภัยก็ได้นำพริกมาปลูกเผยแพร่ในยุโรปแล้วจากยุโรปพริกก็ถูกนำไปปลูกกันแพร่หลายทั่วโลก

โดยหลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นว่า ชาวอินเดียนในเม็กซิโกรู้จักบริโภคพริกเป็นอาหารมานานร่วม 9,000 ปีแล้ว เพราะอุจจาระที่เป็นก้อนแข็งที่พบที่เมืองฮัวกา ปริเอต้า (Huaca Prieta) มีซากเมล็ดพริกที่มีอายุประมาณ 9,000 ปี อีกทั้งการศึกษาวิถีชีวิตของชนเผ่าโอล์เมค (Olmec), โทลเทค (Toltec) และแอซเทค (Aztec) ต่างก็แสดงให้รู้ว่า ชนเผ่าเหล่านี้รู้จักปลูกและบริโภคพริกเช่นกัน นอกจากนี้นักประวัติศาสตร์ยังได้ขุดพบซากของต้นพริกที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ในเทวสถานของเปรูด้วย หรือแม้แต่ลายปักเสื้อผ้าของคนอินเดียนที่อาศัยอยู่ในเปรู เมื่อ 1,900 ปีก่อน ก็มีลวดลายปักเป็นต้นพริก





ต่อมานักประวัติศาสตร์ชื่อ ปีเตอร์ มาร์ไทร์ ได้รายงานว่า พริกแดงที่ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นำมาจากอเมริกามีรสเผ็ด และแพทย์ที่ติดตามโคลัมบัสไปอเมริกาเป็นครั้งที่สองก็ได้กล่าวถึงชาวอินเดียนว่า นิยมปรุงอาหารด้วยพริก และเมื่อกองทัพสเปนบุกอาณาจักรแอซเทค นายพลกอร์เตซ ได้เขียนจดหมายเล่าว่า กษัตริย์แอซเทคทรงโปรดเสวยพระสุคนธรสที่มีพริกปน

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของพริกคือ มีรสเผ็ดนี้เองที่ทำให้ชาวอินเดียนนิยมใช้พริกทรมานเชลยหรือศัตรู เช่น เผาพริกปริมาณมากให้ควันพริกขับไล่ทหารสเปน ส่วนชาวมายาก็มีประเพณีว่า ผู้หญิงมายาคนใดเวลาถูกจับได้ว่าแอบดูผู้ชาย จะถูกพริกขยี้ที่ตา และบิดามารดาของผู้หญิงมายาคนใด ถ้ารู้ว่าบุตรสาวของตนเสียพรหมจรรย์อย่างผิดประเพณี บริเวณของลับของเธอจะถูกละเลงด้วยพริก สำหรับชาวอินเดียนเผ่าคาริบในแอนทิลลิสนั้น ก็นิยมใช้พริกทาบาดแผลของเด็กผู้ชายเพื่อฝึกให้อดทน และเวลาจับเชลยได้ ชาวอินเดียนเผ่านี้ก็จะใช้ไฟจี้ตามตัวจนเป็นแผลพุพองแล้วเอาพริกทา และเมื่อเชลยเสียชีวิตลงเนื้อของเชลยก็จะถูกแล่เอาไปปรุงด้วยพริกเป็นอาหาร เป็นต้น

นอกจากนี้ นักประวัติศาสตร์ชื่อ ฟรานซิสโก เออร์นันเดซ ซึ่งเป็นแพทย์ในกษัตริย์ฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน และได้เคยถูกส่งตัวไปศึกษาธรรมชาติของพืชและสัตว์ในดินแดนใหม่ (อเมริกา) ก็ได้รายงานกลับมาว่า ชาวอินเดียนนิยมปลูกพริกมาก ส่วน พี. เบอร์นาบี โคโบ ผู้ใช้เวลาสำรวจอเมริกานาน 50 ปี ในศตวรรษที่ 20-21 ก็ได้รายงานทำนองเดียวกันว่า ชาวอินเดียนในเม็กซิโกนิยมปลูกพริก โดยได้เขียนลงในหนังสือ Historia ว่า ชาวอินเดียนถือว่าพริกเป็นพืชที่สำคัญรองจากข้าวโพด เพราะชอบบริโภคพริกสด และใช้พริกในพิธีสักการบูชาเทพเจ้าทุกงาน แต่เมื่อถึงเทศกาลอดอาหาร คนอินเดียนเหล่านี้จะไม่บริโภคอาหารที่มีพริกปนเลย โคโบ ยังกล่าวเสริมด้วยว่า ไม่เพียงแต่ผลพริกเท่านั้นที่เป็นอาหาร แม้แต่ใบพริกก็ยังสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ด้วย

ขณะที่ การ์ซิลาโซ เด ลา เวกา ผู้เป็นบุตรของขุนนางสเปนนั้น ก็ได้เล่าว่า ชาวอินคาถือว่าพริกเป็นผลไม้ที่มีคุณค่ามาก เพราะอาหารอินคาจะมีพริกปนไม่มากก็น้อย นอกจากนี้หมอชาวบ้านของชนเผ่านี้ก็มีความรู้อีกว่า ใครก็ตามที่บริโภคพริกในปริมาณที่พอดี ระบบขับถ่ายของคนคนนั้นจะทำงานปกติ แต่ถ้าบริโภคมากเกินไป กระเพาะจะเป็นอันตราย โดย อเล็กซานเดอร์ วอน ฮันโบลด์ นักปราชญ์ชาวเยอรมันก็เป็นบุคคลอีกท่านหนึ่งที่ได้เดินทางไปสำรวจทวีปอเมริกาเป็นเวลานานหลายปี ได้เปรียบเทียบความสำคัญของพริกว่าคนยุโรปถือว่า เกลือมีความสำคัญต่อชีวิตเพียงใด คนอินเดียนก็ถือว่าพริกมีความสำคัญต่อเขาเพียงนั้น

สำหรับประวัติการเดินทางของพริกจากทวีปอเมริกาสู่โลกภายนอก อัลวาเรซ ชานกา ชาวสเปนเป็นบุคคลแรกที่นำพริกสู่ประเทศตน ในปี ค.ศ. 1493 (พ.ศ. 2036) และคนสเปนเรียกพริกว่า Chili ซึ่งเป็นคำที่แปลงมาจากคำ Chile อันเป็นชื่อของประเทศที่ให้กำเนิดพริกในอเมริกาใต้ และเมื่อถึงปี ค.ศ. 1555 (พ.ศ. 2098) บรรดาประเทศต่าง ๆ ในยุโรปกลางก็เริ่มรู้จักปลูกพริกกันแล้ว จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1757 (พ.ศ. 2300) พ่อค้าชาวโปรตุเกสได้นำพริกจากยุโรปไปปลูกในอินเดียและเอเชียอาคเนย์
0/5000
Von: -
Zu: -
Ergebnisse (Deutsch) 1: [Kopieren]
Kopiert!
Thai-Küche ist bekannt in der leckersten Lebensmittel der Welt. Das einzige, das ermöglicht eine einzigartige Thai-Gerichte, spicy Thai-Food von den Menschen ist seit langem scharf, und diesen Punkt besteht, jeder ist anders, ich denke seine in der Thai-Chili-Schote, die gilt als ein großer Fehler, es zu verstehen. Wenn ich wo seine Chili. Heute Presse die Putrajaya Aktion Bearbeiten Otkhom klarstellen, dass Freunde, die einander kennen. Pfeffer ist eines der ältesten Gewürze der Welt. Der Ursprung des Chili ist in Mittel- und Südamerika, von dort wurde der Abenteurer Pfeffer veröffentlicht in Europa gepflanzt und aus Europa, Pfeffer wächst überall auf der ganzen Welt. Die archäologische Hinweise darauf, dass die Inder in Mexiko kennen Chili Nahrungsaufnahme für eine lange Zeit zusammen 9000 Jahre alt, da ein solider Cube Hocker, die hat festgestellt, dass der 70 Städte. Menge-da (Huaca Prieta) Chili-Bohnen, sind eine Bergung, das Alter von 9000 Jahren und Studie, die die Lebensweise der Stämme e-Mail o c (Olmeken), Master (C)-Drehmaschine (Toltec) und Shell (Azteken) Sathe wurden gezeigt, dass diese Stämme Chili-Konsum und Anbau sowie wissen. Darüber hinaus haben Historiker die Überreste von mehr als 2000 Jahre alten Chili im Schrein von Peru mit Stickerei-Muster oder sogar eine Person, die Kleidung, Indianer leben in Peru ausgegraben. Wenn vor 1900 Jahren es hat Stickerei Muster usw.. " Spätere Historiker, die der Namen Peter Martin Krawatte berichtet, dass Paprika, dass Christopher Columbus aus Amerika, mit würzigen brachte und Ärzte, die Columbus nach Amerika ein zweites Mal zu folgen, es war, dass die indischen Menschen erwähnt, lieber mit Kochen, und wenn die Armee eingedrungen Spanien Königreich bei Sathe c. General Gores Brief sagt, dass er sagte, dass Gonzalez die Khotrong Sathe geschrieben hat, nehmen seine Suknotrot mit Chili-Mix. ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของพริกคือ มีรสเผ็ดนี้เองที่ทำให้ชาวอินเดียนนิยมใช้พริกทรมานเชลยหรือศัตรู เช่น เผาพริกปริมาณมากให้ควันพริกขับไล่ทหารสเปน ส่วนชาวมายาก็มีประเพณีว่า ผู้หญิงมายาคนใดเวลาถูกจับได้ว่าแอบดูผู้ชาย จะถูกพริกขยี้ที่ตา และบิดามารดาของผู้หญิงมายาคนใด ถ้ารู้ว่าบุตรสาวของตนเสียพรหมจรรย์อย่างผิดประเพณี บริเวณของลับของเธอจะถูกละเลงด้วยพริก สำหรับชาวอินเดียนเผ่าคาริบในแอนทิลลิสนั้น ก็นิยมใช้พริกทาบาดแผลของเด็กผู้ชายเพื่อฝึกให้อดทน และเวลาจับเชลยได้ ชาวอินเดียนเผ่านี้ก็จะใช้ไฟจี้ตามตัวจนเป็นแผลพุพองแล้วเอาพริกทา และเมื่อเชลยเสียชีวิตลงเนื้อของเชลยก็จะถูกแล่เอาไปปรุงด้วยพริกเป็นอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ นักประวัติศาสตร์ชื่อ ฟรานซิสโก เออร์นันเดซ ซึ่งเป็นแพทย์ในกษัตริย์ฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน และได้เคยถูกส่งตัวไปศึกษาธรรมชาติของพืชและสัตว์ในดินแดนใหม่ (อเมริกา) ก็ได้รายงานกลับมาว่า ชาวอินเดียนนิยมปลูกพริกมาก ส่วน พี. เบอร์นาบี โคโบ ผู้ใช้เวลาสำรวจอเมริกานาน 50 ปี ในศตวรรษที่ 20-21 ก็ได้รายงานทำนองเดียวกันว่า ชาวอินเดียนในเม็กซิโกนิยมปลูกพริก โดยได้เขียนลงในหนังสือ Historia ว่า ชาวอินเดียนถือว่าพริกเป็นพืชที่สำคัญรองจากข้าวโพด เพราะชอบบริโภคพริกสด และใช้พริกในพิธีสักการบูชาเทพเจ้าทุกงาน แต่เมื่อถึงเทศกาลอดอาหาร คนอินเดียนเหล่านี้จะไม่บริโภคอาหารที่มีพริกปนเลย โคโบ ยังกล่าวเสริมด้วยว่า ไม่เพียงแต่ผลพริกเท่านั้นที่เป็นอาหาร แม้แต่ใบพริกก็ยังสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ด้วย ขณะที่ การ์ซิลาโซ เด ลา เวกา ผู้เป็นบุตรของขุนนางสเปนนั้น ก็ได้เล่าว่า ชาวอินคาถือว่าพริกเป็นผลไม้ที่มีคุณค่ามาก เพราะอาหารอินคาจะมีพริกปนไม่มากก็น้อย นอกจากนี้หมอชาวบ้านของชนเผ่านี้ก็มีความรู้อีกว่า ใครก็ตามที่บริโภคพริกในปริมาณที่พอดี ระบบขับถ่ายของคนคนนั้นจะทำงานปกติ แต่ถ้าบริโภคมากเกินไป กระเพาะจะเป็นอันตราย โดย อเล็กซานเดอร์ วอน ฮันโบลด์ นักปราชญ์ชาวเยอรมันก็เป็นบุคคลอีกท่านหนึ่งที่ได้เดินทางไปสำรวจทวีปอเมริกาเป็นเวลานานหลายปี ได้เปรียบเทียบความสำคัญของพริกว่าคนยุโรปถือว่า เกลือมีความสำคัญต่อชีวิตเพียงใด คนอินเดียนก็ถือว่าพริกมีความสำคัญต่อเขาเพียงนั้น สำหรับประวัติการเดินทางของพริกจากทวีปอเมริกาสู่โลกภายนอก อัลวาเรซ ชานกา ชาวสเปนเป็นบุคคลแรกที่นำพริกสู่ประเทศตน ในปี ค.ศ. 1493 (พ.ศ. 2036) และคนสเปนเรียกพริกว่า Chili ซึ่งเป็นคำที่แปลงมาจากคำ Chile อันเป็นชื่อของประเทศที่ให้กำเนิดพริกในอเมริกาใต้ และเมื่อถึงปี ค.ศ. 1555 (พ.ศ. 2098) บรรดาประเทศต่าง ๆ ในยุโรปกลางก็เริ่มรู้จักปลูกพริกกันแล้ว จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1757 (พ.ศ. 2300) พ่อค้าชาวโปรตุเกสได้นำพริกจากยุโรปไปปลูกในอินเดียและเอเชียอาคเนย์
Übersetzt wird, bitte warten..
Ergebnisse (Deutsch) 2:[Kopieren]
Kopiert!
Lebensmittel in Thailand gilt als das leckere Essen in der Welt bekannt. Die Sache, die es einzigartig macht, ist die würzige Nahrung Thailand nach Thailand würzigen für eine lange Zeit. Und an dieser Stelle, dass jeder denken, dass Chili stammt aus Thailand. Dies ist das Verständnis, dass Fehler überhaupt. Also, wo Chili stammt Heute Transmission Forum แ tlgak zu klären, um zu wissen, mein Chili ist eines der ältesten Gewürze der Welt. Der Ursprung der Paprika in Nord-, Mittel- und Südamerika. Und von dort das Abenteuer wurde in Europa von Paprika weltweit gewachsen freigegeben und die Pfefferpflanze nach Europa gebracht durch archäologische Beweise zeigen, dass. Indianer in Mexiko bekanntes Restaurant Verbraucher Chili 's für die Zusammenarbeit vor 9000 Jahren, weil die Stühle harten Klumpen in Hualien Capri Pieta (Huaca Prieta) gefunden bleibt Samen im Alter von etwa 9000 Jahren das Studium der Art und Weise. Alte Stammesleben mech (Olmec), Master Tech (Toltec) und Azteken (Azteken) zeigen auch, dass. Diese Stämme sind gewachsen und verbraucht Paprika als auch. Darüber hinaus haben die Historiker die Überreste eines 2000 Jahre alten Pfefferbaum im Tempel von Peru ausgegraben. Oder sogar gestickten Kleider der Indianer, die in Peru lebte 1900 Jahre, bevor es eingerichtet und Pfeffer später Historiker namens Peter Tire berichtet, dass Paprika, die Christoph Kolumbus brachte aus Amerika. würzig Und Ärzte, die Kolumbus nach Amerika folgen zweimal erwähnt, dass die Indianer. Top mit Chili-Koch Und wenn der spanischen Invasion des Aztekenreiches, General Gordon schrieb sagt Venkatesh. Aztec König hat mit Chili Duft mischte gegessen mit den auffälligsten Merkmale der Paprika. Dies gibt einen würzigen indischen beliebte Chili Peppers Folter Gefangenen oder Feinde zu verbrennen viel Rauch, Pfeffer die spanischen Soldaten zu vertreiben. Die Mayas hatten eine Tradition, dass. Maya Frau, die einen kleinen Vorgeschmack auf den Mann erwischt wurde. Als Pfeffer einreiben am Auge Und die Eltern eines Mädchens, Mayas. Ich weiß, dass seine Tochter verloren ihre Jungfräulichkeit zu einer Tradition. Gebiet ihr Geheimnis ist verschmiert mit Pfeffer. Für den Indianerstämmen in der Karibik, auf den Antillen. Der Pfeffer wurde verwendet, um Wunden Geduld des Jungen zu trainieren. Und die Gefangenen Indianerstämme, sie als Pendelleuchte und einer Blase verwendet wird, entfernen Sie dann die Paprika. Der Körper des Gefangenen, der Gefangene gestorben ist, müsste es mit Chili Koch Lebensmittel belastet. Usw. Zusätzlich Historiker namens Francisco, Kalifornien Irvine Hernandez, einen Arzt in König Philipp der zweite von Spanien hat auf die Art der Pflanzen und Tiere in das neue Land (Amerika) gesendet wurde, zurückgemeldet. dass Die wachsende Popularität der indischen Chili, p. Burnaby Cobo, die 50 Jahre in Amerika verbracht Umfrage berichtet, auch in ähnlicher Weise, dass die 20 bis 21 Jahrhundert. Indian Paprika in Mexiko aufgewachsen. Es wird in dem Buch Historia geschrieben davon aus, dass die indische Pfeffer ist eine wichtige Kultur nach Mais. Ich mag Chiliverbrauch Und Pfeffer in einer Zeremonie der Anbetung alle Götter. Aber wenn es zu der schnellen kommt Inder essen nicht ein Chili-Mix bei Cobo fügte hinzu, dass. Nicht nur Stamm nur das Essen. Selbst die Blätter, Pfeffer, es kann auch verwendet werden, um mit zu kochen die Garden City, La Source de la Vega, der Sohn eines spanischen Edelmann wurde auch gesagt, dass die Inkas als Pfeffer Frucht ist sehr wertvoll. Da die Inkas müsste gemischte Paprika mehr oder weniger. Außerdem Bewohner dieser Stammes Ärzte haben zu wissen. Jeder, der Pfeffer in Mengen konsumiert. Verdauungssystem des Menschen wäre typisch. Allerdings, wenn ein übermäßiger Verzehr Magen ist gefährlich von Alexander gewann der deutsche Philosoph Johann Diebold ist andere Person, die Nordamerika seit vielen Jahren besucht hat. Um die Bedeutung der Chili, die Europäer als zu vergleichen. Salz ist entscheidend für die Lebensdauer der nur eine. Es gilt als die indischen Chili ist nur für ihn so wichtig für die Reisegeschichte Pfeffer aus Südamerika in der Welt, Al Alvarez Shankar Spanier wurde zuerst in das Land im Jahre 1493 eingeführt, Chili (. Act 2036) und die Spanier nannten die Chili Peppers, die ein Begriff aus dem Namen des Herkunftslandes als Chile Paprika in Südamerika abgeleitet ist. Und bis zum Jahr 1555 (Juli 2098), die Länder in Mitteleuropa sind, sich gegenseitig kennen und Chili. Bis zum Jahr 1757 (Jahr 2300) Portugiesische Händler brachten aus Europa in Pfeffer in Indien und Südostasien angebaut.


















Übersetzt wird, bitte warten..
 
Andere Sprachen
Die Übersetzung Tool-Unterstützung: Afrikaans, Albanisch, Amharisch, Arabisch, Armenisch, Aserbaidschanisch, Baskisch, Bengalisch, Birmanisch, Bosnisch, Bulgarisch, Cebuano, Chichewa, Chinesisch, Chinesisch Traditionell, Deutsch, Dänisch, Englisch, Esperanto, Estnisch, Filipino, Finnisch, Französisch, Friesisch, Galizisch, Georgisch, Griechisch, Gujarati, Haitianisch, Hausa, Hawaiisch, Hebräisch, Hindi, Hmong, Igbo, Indonesisch, Irisch, Isländisch, Italienisch, Japanisch, Javanisch, Jiddisch, Kannada, Kasachisch, Katalanisch, Khmer, Kinyarwanda, Kirgisisch, Klingonisch, Koreanisch, Korsisch, Kroatisch, Kurdisch (Kurmandschi), Lao, Lateinisch, Lettisch, Litauisch, Luxemburgisch, Malagasy, Malayalam, Malaysisch, Maltesisch, Maori, Marathi, Mazedonisch, Mongolisch, Nepalesisch, Niederländisch, Norwegisch, Odia (Oriya), Paschtu, Persisch, Polnisch, Portugiesisch, Punjabi, Rumänisch, Russisch, Samoanisch, Schottisch-Gälisch, Schwedisch, Serbisch, Sesotho, Shona, Sindhi, Singhalesisch, Slowakisch, Slowenisch, Somali, Spanisch, Sprache erkennen, Suaheli, Sundanesisch, Tadschikisch, Tamil, Tatarisch, Telugu, Thailändisch, Tschechisch, Turkmenisch, Türkisch, Uigurisch, Ukrainisch, Ungarisch, Urdu, Usbekisch, Vietnamesisch, Walisisch, Weißrussisch, Xhosa, Yoruba, Zulu, Sprachübersetzung.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: